นายพงษ์ อายุ 53 ปี ชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาลักทรัพย์เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม หรือ วัดบ้านบุตาพวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
สอบถาม นายพงษ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ เคยบวชเป็นพระจริงๆ ก่อนจะลาสิขามานานหลายปีแล้ว แต่ยังเก็บใบสุทธิเอาไว้
หลังจากสึกออกมา “นายพงษ์” ก็แต่งงานอยู่กินกับภรรยาในจังหวัดนครราชสีมา โดยประกอบอาชีพค้าขาย แต่หมุนเงินไม่ทัน ก็เลยปลอมตัวเป็นพระ หลอกต้มตุ๋นชาวบ้าน โดยเฉพาะคนชรา และบางครั้งหลอกพระด้วยกัน เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อผลไม้ให้ภรรยาขายตามตลาดนัด
ไทม์ไลน์การเมือง หลังเลือกประธานสภา จับตาสเต็ปต่อไป
"พริสซิลา" วอลเลย์บอลบราซิล สุดประทับใจโชว์ของฝากจากแฟนกีฬาไทย (คลิป)
ก่อนจะถูกจับได้ “นายพงษ์” ก็ปลอมตัวเป็นพระอีก แล้วขับรถยนต์ไปที่วัดสาลวนาราม ช่วงบ่ายวันที่ 27 มิถุนายน พอไปถึงก็ถามหาเจ้าอาวาส ซึ่งพระลูกวัดเห็นว่าเป็นพระด้วยกัน จึงไม่ได้เอะใจ ก็บอกทางไปกุฏิเจ้าอาวาสให้ เมื่อพบ พระอาจารย์มงคล เจ้าอาวาสแล้ว “นายพงษ์” ก็เข้าไปตีสนิท อ้างว่า เคยบวชอยู่ที่นี่ ผ่านมาจึงแวะกราบไหว้พระผู้ใหญ่
จากนั้นก็ชวนพูดคุย บีบนวดให้ แถมยังชงน้ำผึ้งให้ดื่ม ซึ่งตรงนี้ พระอาจารย์มงคลบอกว่า พอดื่มน้ำที่ “นายพงษ์” ชงให้ ก็รู้สึกมึนๆ จากนั้น “นายพงษ์” อ้างจะช่วยตรวจดูแอร์ให้ พอมารู้ตัวอีกที่ก็พบว่า เงินหายไปกว่า 1 แสน 8 หมื่นบาท จึงแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามตัว
การสอบประวัติ “นางพงษ์” มีอดีตภรรยาอยู่ที่ตำบลคูเมือง อำเภอคูเมือง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามอดีตแม่ยาย บอกว่า นายพงษ์ เคยแต่งงานอยู่กินกับลูกสาว แต่เลิกรากันไปนานแล้ว ซึ่งตอนนั้น “นายพงษ์” ก็หลอกว่า ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน ห้างดังแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยเห็นไปทำงานเลย
ที่สำคัญยังมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย สร้างความไม่พอใจ และเอือมระอาของชาวบ้านอย่างมาก เคยถูกจับหลายครั้งก็ไม่เข็ดหลาบ จนสุดท้ายก็เลิกรากับภรรยา แล้วออกจากหมู่บ้านไปคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์ หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือ รับของโจร และ "แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุสามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ